พิจารณาพระสารีริกธาตุ (ชีวประวัติครูบาบุญชุ่ม)

พิจารณาพระสารีริกธาตุ (ชีวประวัติครูบาบุญชุ่ม)




แล้วเหมือนมีพระพุทธคุณบันดาล อยู่ ๆ ก็มีหลวงพ่อธุดงค์ องค์หนึ่งอยู่อําเภอจุน จังหวัดพะเยา เดินทางมาหาได้นําเอาพระบรม สารีริกธาตุมามอบให้ครูบาฯท่าน 

เมื่อท่านได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาแล้วบังเกิดปีติ ได้น้อมจิตพิจารณาลงในสาระนั้น มิได้ยินดีปรีดาเหมือน เราท่าน กลับถือเอาเป็นอารมณ์กรรมฐานว่ากระดูกของสัตว์โลกทั้งหลายนั้น นับตั้งแต่เวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสารนี้ 

หากนํามากองรวมกัน คงกองใหญ่เป็นภูเขาทีเดียว หากแยกกันก็กระจัดกระจายอย่างที่เห็น กระดูกแข็งไปทาง หนึ่ง กระดูกเข่าไปอีกทางหนึ่ง กระดูกข้อเท้าไปทางอื่น กระดูกข้อนิ้ว เท้าก็กระจัดกระจายไปทางอื่น กระดูกทุกส่วนแยกออกจากกันไปคนละ ที่คนละแห่ง แล้วก็ผุพังกลายเป็นดินเป็นจุลไป ท่านก็น้อมพิจารณาเข้ามาในกายแห่งตนว่า


(กาโย) เอวธมฺโม (เอวิภาวี) เอว คนตีโตติ แม้กายนี้ ก็เป็นธรรมดาอย่างนี้ มีภาวะอย่างนี้ ไม่ล่วงพ้นอย่าง นี้ไปได้

ครูบาฯท่าน ยกกระดูกสามร้อยท่อนเป็นกรรมฐาน ให้เห็นชัด แจ้งในสังขารรูปนาม ร่างกายอันเน่าเหม็นนี้ไม่ดีไม่งาม เป็นอสุภะ ซึ่ง เท่ากับยกจิตขึ้นสู่อารมณ์วิปัสสนา พิจารณาสรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจังไม่ เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ของเราสักอย่าง เห็นความเกิดความดับ ของรูปนามสังขารดังนี้แล้ว ก็ยกจิตขึ้นสู่ยถาภูตญาณทัศนะ 

ได้เห็นแจ้ง รู้ชัดตามความเป็นจริงในทุกอย่าง 
บังเกิดความเบื่อหน่ายในกองสังขารทุกข์ทั้งหลาย
อยากจะพ้นไปจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย

หาทางที่จะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งหลาย แล้ววางเฉยต่อสังขาร ทั้งหลายไม่ติดข้องยินดีในสังขารทั้งหลาย แล้วมองเห็นอริยะสัจจะธรรม ทั้งสี่ให้เห็นแจ้งชัดว่า นี้คือทุกข์

ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจเป็นทุกข์ ได้ประสบพบสิ่งที่ไม่ได้รักก็เป็นทุกข์ได้ พลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์ อยากได้อันใดไม่สมปรารถนาก็เป็นทุกข์
——-





ความคิดเห็น